
ทรัมป์สั่งเรือดำน้ำนิวเครียร์2ลำประชิดรัสเซียหลังถูกขู่โดยเมดเวดฟ —> ทองลุ้นขึ้น
🚨 ทรัมป์ขยับหมากแรง! ส่งเรือดำน้ำนิวเคลียร์ประชิดรัสเซีย โลกตึงเครียด – ราคาทองคำมีลุ้นพุ่งสูงอีกระลอก 💥
“The US is totally prepared for nuclear war with Russia.” – Donald J. Trump
🔥 จุดเริ่มต้นความตึงเครียด: เมดเวดฟขู่ตอบโต้สหรัฐฯ
ช่วงต้นเดือนสิงหาคมนี้ โลกได้สะเทือนอีกครั้งจากคำพูดของ “ดมิทรี เมดเวดฟ” (Dmitry Medvedev) อดีตประธานาธิบดีรัสเซีย และมือขวาของวลาดิเมียร์ ปูติน โดยเขาได้ออกมา “ข่มขู่” สหรัฐอเมริกาและชาติตะวันตกด้วยภาษาที่รุนแรง หลังจากที่ NATO และพันธมิตรยังคงส่งอาวุธและสนับสนุนยูเครนอย่างต่อเนื่อง
เมดเวดฟกล่าวอย่างชัดเจนว่า หากมีความพยายามจากฝั่งตะวันตกที่จะ “ทำให้รัสเซียอ่อนแอ” หรือ “บุกเข้าสู่ดินแดนของรัสเซีย” ไม่ว่าจะโดยทางตรงหรืออ้อม “รัสเซียมีสิทธิ์ที่จะตอบโต้ด้วยอาวุธนิวเคลียร์”
🇺🇸 ทรัมป์สวนกลับทันที: เคลื่อนเรือดำน้ำนิวเคลียร์ใกล้รัสเซีย
แม้ทรัมป์จะไม่ได้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีในปัจจุบัน แต่เขายังคงเป็นแกนนำสำคัญของพรรครีพับลิกัน และมีอิทธิพลต่อกองทัพและนโยบายความมั่นคงของสหรัฐฯ อย่างสูง
คำแถลงการณ์ล่าสุดของเขาระบุว่า:
“สหรัฐฯ พร้อมเต็มที่สำหรับสงครามนิวเคลียร์กับรัสเซีย ถ้าจำเป็น!”
และตามมาด้วย คำสั่งเคลื่อนย้ายเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ 2 ลำ ที่ติดตั้งขีปนาวุธ Trident II ไปยังเขตทะเลใกล้รัสเซียอย่างเร่งด่วน โดยข่าวกรองระบุว่าหนึ่งในสองลำมุ่งหน้าสู่เขตทะเลเหนือ (North Sea) และอีกลำหนึ่งอยู่แถบทะเลดำ (Black Sea)
🛠 ความสำคัญของเรือดำน้ำ Trident-II
เรือดำน้ำคลาสนี้ไม่ได้เป็นเพียงเรือดำน้ำทั่วไป แต่เป็น “หัวใจของขีดความสามารถนิวเคลียร์เชิงยุทธศาสตร์” ของสหรัฐฯ โดยมีจุดเด่นดังนี้:
- บรรทุกหัวรบนิวเคลียร์ได้สูงสุดกว่า 20 ลูกต่อลำ
- มีระบบซ่อนตัวขั้นสูง ตรวจจับได้ยากมาก
- ยิงขีปนาวุธได้จากใต้น้ำโดยไม่ต้องโผล่เหนือน้ำ
การขยับเข้าใกล้รัสเซียของเรือเหล่านี้ จึงถูกตีความว่าเป็น “การเตรียมพร้อมเชิงลึก” และกดดันรัสเซียให้ลดระดับความก้าวร้าว
🧠 ทำไมเหตุการณ์นี้สั่นคลอนตลาดโลก?
คำว่า “Nuclear War” หรือ “สงครามนิวเคลียร์” นั้น แม้จะไม่ได้หมายถึงการโจมตีจริงเสมอไป แต่แค่การพูดถึงก็สามารถทำให้ตลาดโลกตื่นตระหนกทันที
สิ่งที่เกิดขึ้นในช่วง 48 ชั่วโมงหลังข่าวนี้ออกมา:
- ดัชนีหุ้นทั่วโลกปรับตัวลดลงทันที โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศ G7
- ตลาดคริปโตเกิดแรงเทขาย หนีความเสี่ยง
- นักลงทุนหันไปหาสินทรัพย์ปลอดภัย (Safe Haven) เช่น ทองคำ และตราสารหนี้รัฐบาล
- ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่า แต่ตามมาด้วยแรงขายเพื่อเข้าไปถือทองคำ
🟡 ทองคำกับภัยสงคราม: ความสัมพันธ์ที่พิสูจน์ได้เสมอ
ทองคำถือเป็น “ที่หลบภัย” ที่สำคัญที่สุดเมื่อโลกเผชิญความไม่แน่นอน ซึ่งรวมถึง:
- สงคราม
- วิกฤตเศรษฐกิจ
- วิกฤตการเมืองระหว่างประเทศ
- เงินเฟ้อรุนแรง
กรณีนี้ตรงทุกข้อ!
- สงครามยูเครน-รัสเซียยังไม่จบ
- เศรษฐกิจโลกอ่อนแอ
- ความสัมพันธ์สหรัฐ-จีนก็เปราะบาง
- เงินเฟ้อในหลายประเทศยังสูง
เมื่อรวมกับคำขู่เรื่องอาวุธนิวเคลียร์จากเมดเวดฟ + การตอบโต้ของทรัมป์ = “สูตรสำเร็จสำหรับการดันราคาทอง”
📈 ราคาทองคำเคลื่อนไหวอย่างไร?
ช่วงก่อนข่าว:
- ราคาทองคำอยู่บริเวณ 2,325–2,335 ดอลลาร์/ออนซ์
- นักลงทุนเริ่มเทขายทองเพื่อกลับเข้าสู่ตลาดหุ้น หลังเฟดส่งสัญญาณไม่ขึ้นดอกเบี้ยต่อ
หลังข่าว:
- ทันทีที่ข่าวเคลื่อนย้ายเรือดำน้ำออกมา ราคาพุ่งขึ้นกว่า +25 ดอลลาร์ในเวลาไม่ถึง 3 ชั่วโมง
- ราคาทองคำในไทยทะลุ 3,400 บาท/กรัม ในบางช่วง
ปัจจัยที่สนับสนุนราคา:
- อุปสงค์ทองคำแท่งจากนักลงทุนรายใหญ่
- ค่าเงินบาทที่อ่อนค่าร่วมด้วย ทำให้ราคาทองในประเทศพุ่งสูงยิ่งขึ้น
- นักลงทุนรายย่อยและสถาบันเข้าสะสม
📊 วิเคราะห์เชิงเทคนิค (Technical Analysis)
ตัวแปร | ค่า ณ ปัจจุบัน | แนวโน้ม |
---|---|---|
RSI | 68 | ใกล้ Overbought |
MACD | ตัดเส้นศูนย์ขึ้น | เป็นขาขึ้น |
Bollinger Band | เบี่ยงกว้างขึ้น | มีแนวโน้ม Breakout |
แนวต้านสำคัญ:
- 2,365 ดอลลาร์ (จุดสูงสุดเดือนก่อน)
- 2,400 ดอลลาร์ (แนวจิตวิทยา)
แนวรับสำคัญ:
- 2,320 ดอลลาร์
- 2,300 ดอลลาร์
🏦 ความเห็นจากสถาบันใหญ่
- JP Morgan: “ตลาดทองคำอาจได้รับแรงหนุนจนถึงไตรมาส 4 หากความตึงเครียดนี้ไม่คลี่คลาย”
- Citibank: “หากเหตุการณ์บานปลาย อาจเห็นทองคำแตะ $2,450 ได้ในปลายปี”
- World Gold Council: “การซื้อทองคำยังสูงขึ้นต่อเนื่องจากทั้งธนาคารกลาง และนักลงทุนรายใหญ่ในเอเชีย”
🇹🇭 ผลกระทบต่อนักลงทุนไทย
กลุ่มที่ได้รับผลบวก:
- นักลงทุนทองคำแท่ง/กองทุนทองคำ
- ผู้ถือทองคำ ETF ต่างประเทศ (เช่น GLD, SPDR)
กลุ่มที่ต้องระวัง:
- นักลงทุนหุ้นกลุ่ม cyclical (เช่น พลังงาน, อสังหา)
- ผู้ลงทุนหุ้นสหรัฐฯ ที่อ่อนไหวต่อข่าวสงคราม
🧭 กลยุทธ์รับมือสำหรับนักลงทุน
- ถือต่อหากถือทองอยู่แล้ว
- พิจารณาเข้าซื้อหากราคาย่อกลับแนวรับ
- ติดตามข่าวสารทุก 12 ชั่วโมง
- ใช้ Stop-Loss เสมอ
- กระจายความเสี่ยงไปในตราสารเงินสด หรือตราสารหนี้ระยะสั้น
🧨 ความเสี่ยงที่ยังมีอยู่
- ข่าวลวง (Fake News) อาจเกิดขึ้นเพื่อหวังผลปั่นราคา
- ตลาดอาจ Overreact ในระยะสั้น
- รัสเซียและสหรัฐฯ อาจตกลงหลังบ้าน ทำให้ราคาทองปรับลงรวดเร็ว
✨ สรุป
สถานการณ์ “ทรัมป์-เมดเวดฟ” ไม่ใช่เพียงข่าวความขัดแย้งธรรมดา แต่คือปัจจัยเร่งสำคัญที่อาจทำให้ราคาทองคำ พุ่งทะลุระดับสำคัญในปี 2025 หากความขัดแย้งยืดเยื้อ
สำหรับนักลงทุนและผู้ติดตามข่าวสาร นี่คือช่วงเวลาที่ต้องจับตาอย่างใกล้ชิด เพราะ “ทองคำกำลังอยู่ในเกมภูมิรัฐศาสตร์ระดับโลก”
นายตลาดทอง